Sunday, February 21, 2016

Deadshot เพชรฆาตรับจ้าง

 
 
ประวัติ : Deadshot
561850_585386618146204_658413160_n
 
“Floyd Lawton” หรือที่รู้จักกันในนาม “Deadshot” นักฆ่ารับจ้างผู้ได้รับฉายาว่า “ไม่เคยพลาดเป้า” ด้วยความสามารถในการใช้อาวุธอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอาวุธคู่ใจอย่างปืนเก็บเสียงติดข้อมือ นอกจากนี้เค้ายังเป็นสมาชิกขององค์กร “Suicide Squad” เเละทีม “Secret Six” ด้วย 
เค้าปรากฏตัวครั้งเเรกในเมืองก็อทเเฮมในฐานะของฮีโร่นักสู้อาชาญกรรมคนใหม่ของเมือง ทว่าด้วยความทะเยอทะยานทำให้เค้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับ “Batman” เเละพยายามจะเป็นฮีโร่ของเมือง เมื่อไม่สำเร็จเค้าจึงหันไปสร้างอำนาจใต้ดินของก็อทเเฮมเเทน เเต่สุดท้ายก็ถูกเเบทเเมนที่ร่วมมือกับจิม กอร์ดอนเปิดโปงแผนการณ์เเละส่งเข้าคุกไปในที่สุด
 
 
หลังจากออกมาได้ เค้าตัดสินใจทำงานเป็นนักฆ่ารับจ้าง ปรับเปลี่ยนชุดใหม่โดยสร้างหน้ากากที่ติดตั้งอุปกรณ์ล็อคเป้าหมายที่ตาขวา เค้ายังเข้าทำงานกับทีม “Suicide Squad” ทีมที่รวมวายร้ายอันตรายไว้คอยทำงานให้กับทางการ เค้ายังเคยเข้าร่วมกับทีมรวมวายร้ายอย่าง “Secret Six” ที่มี “Lex Luthor” เป็นคนดูเเลอยู่เบื้องหลัง สมาชิกหลักๆในทีมก็อย่างเช่น Bane, Catman, Harley Quinn, Mad Hatter, Deadshot เเละ Lex Luthor ที่ใช้ชื่อแฝงว่า “Mockingbird”
 
 
ความสามารถของเค้าคือทักษะการใช้อาวุธเเละการลอบสังหาร ความเเม่นยำของเค้ามาจากอุปกรณ์ในหน้ากากที่ตาขวาที่สามารถเล็งเป้าหมายในการโจมตีได้
 
 
ที่มาhttps://comicsguide.wordpress.com/2013/05/01/deadshot-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B8%86%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87/
 
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=ksbrMnZ74-4

Harvey Dent อัยการเขตสุดคลั่ง 

 
twoface
 
Hervey Dent (Two-Face)
Dent ชีวิตของเขานั้นเกิดและโตมาในความยากลำบาก โตมาในครอบครัวที่ค่อนข้างจนและได้รับการเลี้ยงดูด้วความรุนแรงและโหดร้าย โดยพ่อของเขานั้นเป็นบ้า ทำให้เขานั้นโดนพ่อของเขานั้นทำร้ายบ่อยๆ
Dent นั้นชอบเล่นเหรียญ โดยการโยนและเดาว่ามันจะออกหน้าไหน เพื่อและกับสิ่งต่างๆ ที่เขาจะได้จากพ่อ โดยสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น พลักดันเขา และเขานั้นได้เป็น อัยการเขตในที่สุด
เขานั้นเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างหนัก เขาส่งเสริมกฏหมายและระเบียบบ้านเมือง จนมีแต่คนชื่นชอมเขามาก แถมเขายังเป็นเพื่อนของ Batman อีกด้วย
ในขณะนั้น ภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดใน Gotham ก็เกิดขึ้นจาก มหาอำนาจมาเฟีย “โรมัน”  ซึ่งหลังจากที่ Dent เขาทำร้ายจักรวรรดิของ โรมัน
โดยในระหว่างการพิจารณาคดี Sal Maroni (คนในแก๊งของโรมัน) ได้สาดน้ำกรดใส่หน้าของ Dent ทำให้ซีกซ้ายด้านบนของเขานั้นมีแต่ลอยแผลไหม้เกิดขึ้น
เขานั้นหนีออกจากโรงพยาบาล ด้วยความบ้าคลัง ทำให้เขานั้นกลายเป็นคนที่มี 2 บุคลิก ซึ่งทำให้เขานั้นกลายเป็น  Two-Face ในที่สุด โดยเขานั้นจะ 2 สิ่งในตัวของเขา คือความดีและชั่วนั้นเอง และแต่งตัวแบ่งแยก 2 บุคลิกนั้นอย่างเห็นได้ชัด และอย่างที่บอกไปว่าเขานั้นชอบเล่นโยนเหรียญ ทำให้เขานั้นเลือกที่จะใช้เหรียญเพื่อ ตัดสินใจในสิ่งต่างๆ โดนการโยนหัวก้อย ว่าจะฆ่าหรือไม่ฆ่านั้นเอง
จากนั้นเขาก็เริ่มลงมือทำการสิ่งต่างๆ เพื่อที่จะแก้แค้น และทำให้เขานั้นกลายสุดยอดวายร้ายที่ทุกคนจดจำได้นั้นเอง…
ความสามารถ
– กฏหมาย : เขาเป็นทนายความ,อัยการเขต ที่มีความรู้อย่างมาก ทำให้เขามีความเชี่ยวชาญในกฏหมายอย่างมาก
– Firearms : เขานั้นถูกฝึกการใช้ปืนจาก Deathstroke เขาฝึกอย่างหนักจนเขานั้นกลายเป็นนักแม่นปืนที่ดีเลยทีเดียว
– การต่อสู้ประชิดตัว (ขั้นสูง) : เขานั้นได้รับการฝึกจาก Batman ทำให้เขานั้นมีความสามารถสูงในการต่อสู้ระยะประชิด
อุปกรณ์
– เหรียญสองด้าน : โดยเหรียญนี้ก็เป็นเหรียญธรรมดา เหรียญดอลลาร์ที่ใช้ ซึ่งจะมีด้านที่สะอาดปกติเงางาม และอีกด้านที่ดำมือและมีแต่ลอดขีดข่วน ซึ่งเขาจะให้มันเพื่อตัดสินใจสิ่งต่างๆ โดยการโยนเหรียญ หากออกด้านปกติ เขาก็จะไม่ทำอะไร แต่ถ้าหากออกด้านที่มีแต่ลอยขีดข่วนเมื่อไหร่ เขาจะทำการฆ่าทันที…
– ปืนกลอัตโนมัติ : เขานั้นใช้ปืนต่างๆมากมาย แต่ที่เขาใช้บ่อยๆ เลยคือ ปืนกลอัตโนมัติ ซึ่งเขาจะใช้ 2 กระบอก ยิงพร้อมกันทั้งซ้ายและขวา โดยเขานั้นจะยิงอย่างบ้าคลั่งสาดกระสุนไม่ยั่ง เลยทำให้เขานั้นเลือกที่จะใช้ปืนกลอัตโนมัติมากว่าปืนอื่นๆ เพราะ มันคงยิงได้เมามันส์กว่า > <”
บทความโดย Agent K
Cr. http://dc.wikia.com/wiki/Harvey_Dent_(New_Earth)
bf-2-face
 
Harvey Dent ในหนัง Batman Forever (1995) แสดงโดย Tommy Lee Jones
 
-Harvey-Dent-Two-Face-The-Dark-Knight-Screencaps-536
 
Harvey Dent ในหนัง The Dark Knight (2008) แสดงโดย Aaron Eckhart
 
GOTHAM ep. 109 -- exclusive EW.com image

GOTHAM ep. 109 — exclusive EW.com image
 
Harvey Dent ในซีรี่ย์ Gotham (2014) แสดงโดย Nicholas D’Agosto
 
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=I5-qd65gfv4
 
 
ที่มาhttps://comicsguide.wordpress.com/2014/01/21/hervey-dent-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87/
ประวัติBane Origins
 
 
 
ประวัติปรากฎตัวครั้งแรก Batman: Vengeance of Bane#1 (1993)

เป็นตัวร้ายที่สำคัญตัวหนึ่งเลยทีเดียว และส่งผลกระทบกับต่อ Batman อย่างแรงเลยทีเดียว
เบน เป็นตัวละครที่ได้รับพลังเหนือมนุษย์จากการเป็นหนูทดลอง เขาได้รับสารที่ชื่อว่า "เวน่อม"
เบน จึงเป็นตัวร้ายที่มีความเหนือมนุษย์ทั้งกำลัง และสติปัญญา มากที่สุดในบรรดาตัวร้ายของ Batman
...........................................................................

ความสามารถพิเศษ:

พัฒนาการทางด้านกำลังของร่างกายถึงขั้นขีดสุด พลังมหาศาลเหนือมนุษย์ ฉลาดเป็นกรด เชี่ยวชาญทางด้านวางกลยุทธ์
สามารถหลบหนีได้ทุกสถานการณ์ เชี่ยวชาญการต่อสู้ด้วยมือเปล่า


...........................................................................

ประวัติความ*****มพอสังเขป:

เบนมีชีวตในวันเด็กที่สุดแสนรันทด เบนต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตแทนพ่อบังเกิดเกล้า ช่วงวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ต้องอาศัยอยู่ในคุก Pena Duro
คุกอันฉาวโฉ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองซานตา พริสก้า

ในคุกเบนพยายามอ่านหนังสือให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถอ่านได้ ทั้งออกกำลังกายเล่นยิม รวมทั้งทักษะการต่อสู้
ในที่สุด เบน สามารถสถาปนาตัวเองเป็นจ้าวแห่งคุก Pena Duro ได้สำเร็จ

แต่แล้วก็ถึงความซวยของเบน เมื่อพัศดีต่างๆพากันลงความเห็นว่าในการนำ เบน ไปเป็นหนูทดลองในโครงการที่ชื่อว่า "เวน่อม"
ซึ่งสารทดลองได้คร่าชีวิตหนูทดลองที่ผ่านมาก่อนหน้าจนเกลี้ยง ยกเว้นเขาเพียงคนเดียวที่แค่อาการปางตายรอดมาได้ พร้อมกับพละกำลังเหนือมนุษย์

แต่อย่างไร เบน ก็ต้องได้รับสาร"เวน่อม"ทุกๆ 12 ชั่วโมง มิเช่นนั้นจะเกิดผลค้างเคียงอย่างรุนแรง

จากนั้นอีกหลายปี เบนได้แหกคุกออกมาพร้อมกับความต้องการกำจัด Batman เพราะดันอีตา เบน ดันฝันฝันร้ายเกี่ยวกับค้างคาว(เวงเอ็งฝันร้ายนี้ถึงขนาดจะฆ่าจะแกงกันเลยรึ)

แต่เมื่อเบนไปถึงเมืองก็อตแฮมซิตี้ เขากลับหลงไหลเมืองนี้ยิ่งนัก ด้วยความรู้กสึกที่ว่า "มันก็ไม่ได้ต่างจากคุกที่ตูอยู่เท่าไหร่นี่หว่า555"
ด้วยความอัจฉริยะมาตั้งแต่เกิด จึงเห็นถึงการที่จะปะทะกับBatmanตัวๆนั้น เป็นเรื่องที่โง่เง่าจริง(ปอด แล้วหาข้ออ้าง)

เขาจึงไปถล่มฐานจิตเวท Arkham เพื่อปลดปล่อยเหล่าอาชญากรวิกลจริตทั้งหมดออกมา ทำให้พี่ Batman เรานั้นต้องตามล้างเช็ด ตูดส์ นานถึง 3 เดือน จนหมดเรี่ยวแรง อันเป็นการตัดกำลังของ Batman อย่างแรง

เมื่อ Batman มาถึงคฤหาสน์ ก็พบเบนรอตุ๋ยส์ เฮ้ย!!! รอเชือดอยู่นั้นเอง

ผลจากการปะทะกันนั้นปรากฎว่าพี่ Batman เรา"หักหลัง"เลยครับพี่น้อง จนพี่ Batman เรานั้นอัมพตแDกทั้งตัว
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการ"ปิดตำนาน" Batman ของ"บรูซ เวน์น"ไปในที่สุด
และเบนก็ได้เป็นผู้ปกครองโลกแห่งอาชญากรรมของเมือง ก็อตแฮม ซิตี้...


ฺBatman เจอหักหลัง ถึงขั้นอัมพาต แdกs

ยัง ยังไม่จบ หลังจาก Batman เป็นอัมพาต เหล่าร้ายครองเมือง จึงจำเป็นที่จะต้องมีฮีโร่ตัวใหม่มาแทนของ Batman
คือวัยรุ่นนาม ฌอง พอล วัลเลย์ และแบทแมนก็เปลี่ยนโฉมใหม่เป็น "เอสเรล"


เอสเรล ตัวแทนคนใหม่ของ Batman แต่ดังไม่เทียบเท่าแม้แต่ ขี้เล็บ หัวแม่ก้อยของ Batman
...........................................................................

..:::Bane ในภาพยนตร์ The Dark Knight Rises ลืมภาคเก่าซะ เพราะภาคนี้เค้ามาโหดนะตะเอง:::..


โหดจริงๆนะ ไม่เชื่อ ตามไปดูปีหน้านะจ๊ะ

หลังจาก The Dark Knight ได้สร้างปรากฎการณ์ที่ทำให้ตัวร้ายอย่าง Joker ติดทำเนียบตัวร้ายที่คนต้องพูดถึงไปแล้ว ทั้งการแสดง
และความโหดร้ายที่น่าาจดจำมาในภาคใหม่จึงเป็นที่สนใจต่อประชาชนและแฟนบอยเป็นอย่างมากว่าผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน จะนำตัวร้ายในจักรวาล Batman ตัวไหนเป็นตัวร้ายหลักในภาพยนตร์

เพราะทุกคนต่างคิดไปเป็นตุเป็นตะว่า มนุษย์เจ้าปัญหา กับ เพนกวิน ต้องมาในภาคนี้อย่างแน่นอน แต่ผิดคาดครับ เบน กลับมาเป็นตัวร้ายหลักในภาคนี้


ตู นี่แหละตัวร้ายภาคใหม่ใครจะทำไม

...........................................................................

แฟนบอยบางคนก็อ้าว พี่ riddler เค้าละ เพนกวิน ละ แล้วอีกตา Bane นี่มันจะโหดสู้ โจ๊กเกอร์ได้เปล่า
เห็นภาคก่อนเป็นแค่ไอ้บ้ากล้ามปัญญาอ่อนแล้วมันจะดีเหรอเรื่องนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ก็เชื่อว่าผู้กำกับพี่ คริส เรานั้นจะมาจบตำนานของ The Dark Knight ได้เป็นตำนานอย่างแน่นอน เพราะหนังของพี่แกทุกเรื่องไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ

เพราะฉนั้นขอบอกแฟนๆ The Dark Knight นั้นโปรดลืมตัวร้าย Bane ในภาค Batman and Robin ไปได้เลย(ภาคชุด Batman มีหัวนม)
 
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=nZJI4cl-gvk
 
 
ที่มาhttp://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=14632
ประวัติ Harley Quinn
 
 
 

ประวัติของ Harley Quinn
  
  Harley Quinn หรือเดิมชื่อ Harleen Quinzel มีความสามารถได้ด้านยิมนาสติกสูง เป็นตัวละครที่ออกในเกม Batman ภาค Arkham Asylum ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในเมือง Arkham เดิมทีเธอมีอาชีพเป็นจิตแพทย์สาวใช้ชีวิตอย่างคนปกติเรื่อยมา จนกระทั่งวันหนึ่ง Joker ได้ถูกส่งมาติดคุก ที่เมือง Arkham เธอได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษาอาการของ Joker ในระหว่างที่ทำการรักษา Harleen ได้สอบถามประวัติของ Joker เธอได้รู้ว่าเรื่องราวในอดีตของ Joker ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องโกหก เธอได้รู้ว่า Joker เคยถูกข่มเหงโดยพ่อของเขา รวมถึงพ่อของเขาก็ไม่เคยหัวเราะให้กับมุกตลกของ Joker เลย ทำให้เธอตีความไปว่า Joker แค่ต้องการความรัก และใครสักคนที่พร้อมหัวเราะไปกับเขา และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ Harleen ตกหลุมรัก และคอยอยู่เคียงข้างเวลา Joker ต้องการใครสักคน

   วันหนึ่ง Joker ได้หลบหนีจากคุกไป ช่วงที่หนีไปก็ไปหลบตัวอยู่ในโกดังแห่งหนึ่ง ด้วยความที่คิดถึง หรืออย่างไรก็ตาม Joker ได้กลับมาหา Harleen ที่บ้านของเธอ ชวนคุยเรื่องราวต่างๆ หลอกล่อคำพูดตามจิตวิทยาอยากให้เธอติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง จน Harleen คล้อยตาม แต่ด้วยความที่เธอเป็นหมอจึงไม่สามารถออกไปไหนมาไหนกับ Joker ได้อยากเปิดเผย Joker จึงจัดการเสื้อผ้าให้เธอแล้วตั้งชื่อลุคใหม่ของเธอว่า Harley Quinn

แต่ในระหว่างที่หลบหนี Joker ก็โดนทำร้ายร่างกายและจับตัวมาโดย Batman. Harleen ได้เห็นถึงการกระทำที่โหดร้าย ของ Batman แล้วกล่าวโทษในใจว่า Batman ไม่เข้าใจปัญหาของ Joker เพราะเหตุการณ์นี้เธอจึงอยากได้ Batman ตาย เธอจึงได้แต่งกายเป็น Harley Quinn บุกเข้าไปในคุกและปล่อยตัว Joker ออกมา และผันตัวเองเป็นแฟนสาวของ Joker เรียก Joker ว่า “Puddin และ Mr.J” ทั้งสองได้ก่อคดีอาชญากรรมมากมาย แต่ไม่นานนัก Joker ก็รู้สึกรำคาญ Harley Quinn แต่ที่เธอตามตอแยอยู่ไม่ห่างกายก็เพราะทำเพราะ รัก ทั้งนั้น เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อ Joker แต่ Joker กับใช้เธอเป็นแค่เครื่องมือในการกระทำชั่วของเขา ถึงแม้จะโดนขับไสไล่ส่งบ่อยครั้ง เธอก็ไม่ลดละความพยายาม จนกระทั่งวันหนึ่ง Joker ได้ตกหลุมรัก Harley อย่างไม่รู้ตัว เขาไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง เพราะเหตุนี้เขาจึงพยายามที่จะฆ่า Harley…

Harley หลบหนีมาที่ Robinson Park เมือง ก็อทแธม และได้พบกับ Poison Ivy (หนึ่งในวายร้ายสาวสวยที่สามารถสื่อสารกับพืชพันธุ์ และจูบของเธอก็มีพิษเสียด้วยนะ) แต่เดิม Poison Ivy หมายตาว่าจะฆ่า Harley แต่พอได้มาเจอ ได้รับรู้ถึงปัญหาของ Harley พวกเธอก็กลายเป็นเพื่อนรักที่เข้าใจซึ่งกันและกัน Poison Ivy ยังให้เซรุ่มต้านพิษต่างๆแก่ Harley อีกด้วย ทั้งสองกลายเป็นคู่หูวายร้ายและเรียกตัวพวกเธอเองว่า The Queens of Crime (โด่งดังจนลงหนังสือพิมพ์อีกด้วย) Harley เรียก Poison Ivy ว่า Red เนื่องจากผมของเธอมีสีแดง และแผนการใหญ่ของทั้งสอง คือจัดการ Joker และ Batman…

แต่ด้วยความแค้น Harley Quinn อยากที่จะฆ่า Joker จึงเข้าไปร่วมมือกับ Batman และเรียกเขาว่า B-man Batman ดีกับเธอมาก อย่างที่ Joker ไม่เคยทำกับเธอ และมาถึงวันที่ Batman จะออกไปจับกุมตัว Joker โดยที่ไม่รู้เลยว่า Harley มีแผนจะฆ่า Joker ด้วย ในช่วงที่มีโอกาสจะฆ่า Joker กลับพูดขอโทษและพูดให้ Harley คล้อยตามจนตกหลุมรักเขาอีกครั้งหนึ่ง การกระทำนี้จึงทำให้ Poison Ivy เกลียด Joker เพราะรู้ดีว่า Joker แค่หลอกใช้เพื่อนของเธอเท่านั้น



(จะเห็นได้ในตัวอย่างนั้นจะมี Batman มาโผล่ด้วย)

วันหนึ่ง Joker ใช้ให้ Harley ไปฆ่า Batman แต่ทำไม่สำเร็จ ด้วยความโมโหจึงผลักเธอตกจากตึกสูงหลายชั้น Harley เจ็บและมีอาการสาหัส เธอถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ในตอนนั้นเธอทั้งเสียใจและโกรธแค้น Joker แต่ทุกความรู้สึกก็ทลายหายไป เมื่อมีดอกไม้และข้อความจาก Joker ว่า Feel Better soon - J แน่นอนว่าเธอให้อภัย Joker หมดทั้งใจ

Joker บอก Harley ว่าเขาต้องการที่จะฆ่า Batman และเขาต้องการความช่วยเหลือจากเธอ แต่แท้ที่จริง Joker ต้องการที่จะให้ Harley ไปเผชิญหน้ากับ Batman และจัดเธอไปในคราวเดียว ดีที่ตอนนั้น Batman ช่วยเธอไว้ทัน จากการยิงของ Joker

จากนั้น Harley ก็เข้าไปรวมกลุ่มกับ Secret Six แต่เธอก็พบว่าผู้คนในทีมต่างที่ต้องการจะกำจัดเธอออกไป ทำให้เธอตระหนักได้ว่า ควรจัดตั้งทีมของตัวเอง จึงได้ชวน Poison Ivy และ Catwoman มารวมทีมที่ชื่อว่า The Gotham Girl ทั้งสามเป็นปรปักษ์กับ Batgirl และกลายเป็น กลุ่มวายร้ายที่โด่งดัง ด้วยความอิจฉา Joker จึงทวีคูณความต้องการที่จะกำจัด Harley แต่เธอก็ถูกช่วยโดย Poison Ivy และ Catwoman และอีกเรื่องราวอีกเรื่องที่พวกเธอได้รู้คือ Joker ที่ปรากฏ ตัวอยู่ ณ ตอนนี้ไม่ใช่ Joker คนเดิมแต่เป็นใครสักคนที่สวมรอยเป็นเขา

Harley จึงย้อนกลับไปที่เมือง Arkham เพื่อที่จะไปจัดการ Joker แต่แล้วด้วยวาจาอันเฉลียวฉลาดของ Joker ก็สามารถดึงเธอให้ตกหลุมรักเขาอีกครั้ง พร้อมบอกว่าฉันนี้แหละ Mr.J ของเธอ ดังนั้น Harley Quinn จึงได้ช่วยให้ Joker ให้ออกมาจากคุก(ระหว่างการจับตัวพร้อมอยู่กับ Batman) และได้เปลี่ยนโฉมตัวเองอีกเวยให้น่ากลัวและน่าเกรงขามยิ่งกว่าเก่า(มีการทักทายBatmanด้วยนะว่า Hot มั้ย) และนอกจากไปช่วย Joker ที่คุก เธอยังไปปล่อยตัว Poison Ivy ที่โดนจับอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามทั้งคู่ก็โดน Batman เล่นงานในที่สุด

Harley เมื่ออยู่ในคุกก็ได้ร่วมกลุ่มที่เรียกว่า Suicide Squad (มีปรากฏตัวในซีรี่ย์ Arrow ด้วยนะแต่โดนไม่ให้ถูกปล่อยตัวมา เสียใจ 555) และเธอก็ได้ตกหลุมรักหัวหน้าทีมที่ชื่อว่า Deadshot เพราะเขามีบุคลิกคล้ายกับ Joker



มาถึงในภาค Arkham City(ไม่เอาในเกมนะ เรื่องขัดกัน!) Joker กับ Batman ก็ได้ต่อสู้กัน Harley ก็คอยช่วยและสนับสนุน Joker ตลอดแต่ท้ายที่สุด Joker ก็ได้รับความพ่ายแพ้ กลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณ Harley ช็อกและเสียใจ ความเคียดแค้นมาเหนือสิ่งอื่นใด เธอบุกเข้าไปในคุกเพียงคนเดียวเพื่อจะไปขโมย ใบหน้า ของ Joker ออกมา จากนั้นก็บังคับให้ Deadshot สวมใบหน้าของ Joker แต่ดวยการกระทำนี้ทำให้ Deadshot ทนไม่ได้จึงตัดสินใจยิงเธอ

เสริมจากภาคคอมมิคที่ไปอ่านมา เลยคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องและแทรกได้ตรงนี้ ในงานศพของ Deadshot เหล่า Suicide Squad ก็ต่างมาร่วมไว้อาลัยทั้งน้ำตา จนไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ฝนที่สาดลงมาเป็นสีเขียว กว่าคนอื่นจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว ต่างสลบสไลยกเว้น Harley (มีภูมิต้านพิษที่ได้มาจากPoison Ivy) แล้วก็ได้พบว่า Joker ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แต่ Joker เปลี่ยนไปรุนแรงกับเธอเพราะคิดว่าเธอมัวแต่สนใจ กลุ่ม Suicide Squad การกระทำอันโหดร้ายทำให้ Harley ทนต่อไปไม่ได้หนีออกมา

หลายคนบอกว่า Harley ท้องแต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ใน DC เผยให้เห็นว่ามีชุดตรวจครรภ์กองอยู่มากมาย ผลตรวจทุกอันเป็น Negative มีเพียงอันเดียวที่เป็น Positive (เกิดจากความคลาดเคลื่อน) และบนเตียงก็มีตุ๊กตาที่ถูกแต่งให้เหมือนเด็กน้อยตัวตลก คาดว่าเธออยากมีลูกกับ Joker มาก

และฉากสุดท้ายของ Harley Quinn คือเธอได้ต่อสู้กับ Batgirl ทั้งคู่กำลังจะตกลงไปหน้าผาสูงที่ไม่รู้ว่าสูงมากเพียงใด หากแต่มองเพียงด้วยตาเปล่าก็ไม่เห็นพื้นด้านล่าง Batgirl พยายามที่จะช่วยดึง Harley Quinn แต่ทว่าชุดของเธอฉีกขาดและทำให้ Harley ตกลงไป

ศพของ Harley Quinn ไม่ถูกพบ หลายคนจึงเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งเนื้อเรื่องดำเนินมาว่าเธอมี หลานสาวฝาแฝดสองคน Dee Dee (ไม่มีเรื่องราวว่าลูกของเธอคือใคร และท้องกับใคร)

ฮืออผมชอบ Harley มากเธอทำทุกอย่างเพื่อรักของเธอจริงๆ แล้วก็นิสัยขี้เล่นนี่แหละจุดขายเลย ทำให้ทุกคนเอ็นดูเธอสุดๆไปเลย
ไม่ว่าจะคนดีคนไม่ดี xD
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=nT_UQyN2X7Y

ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=nT_UQyN2X7Y


The Joker เจ้าชายแห่งอาชญากรรม
 
เเถม
 
ประวัติ : The Joker
 
64875_559676934050506_635174069_n
 
เจ้าของเสียงหัวเราะชวนสยอง… ตัวเเทนเเห่งความโกลาหล… วายร้ายของเหล่าวายร้าย… ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายเเห่งอาชญากรรม… เเละคู่ปรับตลอดกาลของอัศวินรัตติกาล… The Joker !!!

โจ๊กเกอร์ในเเรกเริ่มนั้นไม่ได้ให้รายละเอียดเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรมากนัก โดยแสดงออกในรูปแบบตัวตลก เที่ยวปล้นธนาคาร ทำตัวเปิ่นๆชวนฮามากกว่าชวนผวา ประวัติของเค้ายังคงเป็นปริศนา จนกระทั่งในหนังสือ “The Killing Joke” ที่เปิดเผยเรื่องราวความเป็นมาของสุดยอดวายร้ายผู้นี้ !!
คือวิศวกรในโรงงานเคมีทำงานในห้องทดลองเลี้ยงตัวเองกับภรรยาซึ่งภายหลังได้ตั้งท้อง ก่อนจะลาออกไปเป็นนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟนเเต่ไม่รุ่ง ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ย้ำเเย่เเละภรรยาที่ใกล้คลอดทำให้เค้าต้องร่วมมือกับแก๊งค์โจร “Red Hood” ไปปล้นโรงงานที่เค้าเคยทำงาน (แก๊งค์นี้จะผลัดกันแต่งชุดคลุมพร้อมหมวกสีเเดงในชื่อ “เรดฮู้ด” เพื่อไม่ให้ใครรู้ตัวจริง เเละในการปล้นครั้งนี้เค้าถูกเลือกให้เป็นเร้ดฮู้ดด้วย)
 
The Red Hood

The Red Hood
ในคืนก่อนการปล้นตำรวจได้แจ้งข่าวการเสียชีวิตของภรรยาเขาจากอุบัติเหตุสยอง เขาไม่มีความต้องการที่จะปล้นอีกเเล้ว แต่แก็งค์เรดฮู้ดไม่ยอมจึงต้องเข้าร่วมในการปล้นครั้งนี้อย่างช่วยไม่ได้ ในสภาพที่เหม่อลอยเเละเศร้าเสียใจกับการตายของภรรยาทำให้เค้าพลัดตกลงบ่อสารเคมีในระหว่างการปะทะ โดยไม่รู้มาก่อนว่ามันจะเปลี่ยนสภาพเขาอย่างน่าสยดสยองเเละสติเเตกจนกลายมาเป็น “โจ๊กเกอร์”
พลังเเละความสามารถ : เเก๊สหัวเราะที่ทำให้คนหัวเราะจนตายอย่างน่าสยดสยอง, สารพัดอาวุธที่ทำออกมาในรูปแบบของเล่น, ทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าในระดับหนึ่ง, อัจฉริยะในการวางเเผนก่ออาชญากรรม, เอาตัวรอดเก่งเป็นเลิศ, ไร้ซึ่งความกลัว (เสพแก๊สความกลัวของ Scarecrow ได้เหมือนสูบบุหรี่), เก่งในการเล่นกับจิตใจของคน
หากวิเคราะห์สภาพจิตใจของโจ๊กเกอร์โดยใช้แบทแมนเป็นตัวเปรียบเทียบ จะพบว่าทั้งสองมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกัน ทั้งสองคนต่างก็เผชิญกับความสูญเสียด้วยกันทั้งคู่ แบทแมนเสียพ่อแม่ โจ๊กเกอร์สูญเสียทุกสิ่งในชีวิต จนทำให้จิตใจไม่อาจยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกระทันหัน จึงปิดกั้นตัวเองจากโลกความจริง พร้อมกับพัฒนาบุคลิกที่ซ่อนอยู่ในซอกหลืบจิตใต้สำนึก จึงกลายมาเป็นบุคลิกใหม่ในนามโจ๊กเกอร์
หลายครั้งที่แบทแมนสามารถจะฆ่าโจ๊กเกอร์ได้แต่กลับปล่อยให้หลุดมือไปทั้งที่มีเหตุผลมากมายที่จะฆ่าเค้า (โจ๊กเกอร์เป็นคนยิง “เเบทเกิร์ลจนขาพิการ เป็นคนฆ่า “โรบิน” คนที่สองอย่าง “เจสัน ท้อดด์” ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เเบทเเมนคิดที่จะฆ่าโจ๊กเกอร์เเต่โจ๊กเกอร์หายตัวไปในเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกเสียก่อน) ส่วนโจ๊กเกอร์ก็ใช่ย่อย เขาสบโอกาสที่จะฆ่าแบทแมนหลายครั้ง แต่ก็ปล่อยโอกาสไปเช่นกัน จึงมีการวิเคราะห์กันว่า แบทแมนเชื่อว่าไม่มีใครเกิดมาดีหรือชั่ว แต่มันขึ้นอยู่กับโอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เค้าจึงมีความหวังลึกๆว่าจะสามารถช่วยให้โจ๊กเกอร์กลับมาเป็นมนุษย์จิตปกติอีกครั้ง
ส่วนโจ๊กเกอร์ก็มีความรุ้สึกหลงใหลปลาบปลื้มในตัวของแบทแมนระดับนึง เขาเชื่อว่าใครที่ต้องพบกับเหตุการณ์เลวร้ายสุดๆอย่างที่ตนเจอ คนๆนั้นย่อมมีสภาพจิตใจไม่ต่างไปจากเขา เขามันพูดเสมอๆว่า “ทุกๆคนต้องมีวันที่แสนเลวร้ายอยุ่อย่างน้อยวันหนึ่งเสมอ” ฉะนั้นแทนที่โจ๊กเกอร์จะฆ่าแบทแมนทุกครั้งที่เจอ แต่เขากลับพยายามทำให้เเบทเเมนสติหลุดอย่างเค้า
โจ๊กเกอร์จึงเป็นศัตรูคู่รักคู่แค้นที่น่ากลัวที่สุดของแบทแมน มักจะเป็นการห่ำหันกันในเชิงจิตวิทยามากกว่าห่ำหันกันด้วยอาวุธ อีกทั้งเป็นเหมือนการต่อสู้กับด้านมืดในจิตใจตนเองด้วย ราวกับว่าต่างคนต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของอีกคนหนึ่งนั่นเอง (มีเหตุการณ์หนึ่งที่เเสดงถึงความสัมพันธ์เเปลกๆของพวกเค้า ในตอนที่โจ๊กเกอร์ถูกวายร้ายอีกคนตามฆ่าเเละยิงเค้า เเบทเเมนที่ตามมาถึงทีหลังกลับเลือกที่จะช่วยเค้าเเละปล่อยให้คนยิงหนีไปได้ ยิ่งกว่านั้นเเบทเเมนได้เข้าเยี่ยมโจ๊กเกอร์ซึึ่งก็ถูกถามจากโจ๊กเกอร์เองว่าช่วยเค้าทำไม? เเน่นอนว่าไม่มีคำตอบใดๆจากเเบทเเมน เเต่มีสิ่งหนึ่งที่ออกมาจากปากโจ๊กเกอร์เอง นั่นคือคำว่า “ขอบคุณ” !!?)
เเละอีกคนที่ลืมไม่ได้ หลายๆคนคงรู้จักกับเเฟนสาวของโจ๊กเกอร์ “Harley Quinn” ความสัมพันธ์ของพวกเค้านั้นค่อนข้างซับซ้อน โจ๊กเกอร์มักจะพยายามทุกวิถีทางที่จะสลัดฮาร์เลย์ทิ้งไป ทั้งย้ายหนีโดยไม่บอก, ผลักให้แบทแมนจับ, ถึงขนาดวางแผนฆ่าก็มี แต่สุดท้ายฮาร์เลย์ก็กลับมาได้ทุกครั้ง
 
HarleyQuinn เเละ Joker

HarleyQuinn เเละ Joker
โจ๊กเกอร์มักปฏิบัติกับฮาร์เลย์แบบซาร์ดิสม์ มือถึง เท้าถึง จะดีกับฮาร์เลย์ก็เฉพาะเวลาที่หลอกใช้ มีผลประโยชน์ แต่ลึกๆแล้วในใจโจ๊กเกอร์ก็อาจจะรักฮาร์เลย์อยู่เช่นกัน เหมือนกับว่ารำคาญ แต่ก็ขาดไม่ได้ เช่นในตอนที่โจ๊กเกอร์หลอกฮาร์เลย์เข้าไปในจรวด โจ๊กเกอร์คิดว่าฮาร์เลย์จะต้องตายแน่นอนจึงทิ้งเทปวีดีโอไว้ในนั้น เผยความในใจว่าตลอดเวลาที่ฮาร์เลย์ตามมาอยู่ด้วยทำให้เกิดความรู้สึกอ่อนไหวในใจ และโจ๊กเกอร์เกลียดความรู้สึกแบบนี้จึงต้องฆ่าเธอนั่นเองครับ
เรียบเรียงเเละเพิ่มเติมจาก
 
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=xqfIS_IyBwo
 
ที่มาhttps://comicsguide.wordpress.com/2013/04/13/32/
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=8IyEZXqBKXY
 

 ประวัติ Dr. Doom ผู้ผสานวิทยาศาสตร์ และเวทย์มนต์
 
 
Doctor Doom 
Doctor Doom
วิตเตอร์ วอน ดูม
ผู้มีชะตากรรมอันน่าเห็นใจตั้งแต่เด็ก โดยเขาเกิดขึ้นที่ Latveria (เป็นประเทศสมมุติที่อยู่ในแถบยุโรป)
Doctor Doom
Doctor Doom มีแม่เป็นแม่มด และมีพ่อเป็นหมอยาฝีมือดี แต่แล้วเค้าก็ต้องมาเสียแม่ไปเพราะฝีมือของเจ้าปีศาจ “เมฟิซโต”รวมไปถึงพ่อของเขาที่ถูกไล่ล่าและโดนกล่าวโทษว่าเป็นฆาตกรกษัตริย์ “บารอน วลาดิเมียร์” แห่ง Latveria
หลังจากพ่อของวิคเตอร์ไม่สามารถทำให้เมียของราชาบารอน รอดพ้นความตายจากโรคร้ายได้นั้นเอง
Doctor Doom
ก่อนที่พ่อของเขาจะเสียชีวิต พ่อของเขาได้ฝากตัววิคเตอร์ไว้กับเพื่อนสนิทต่อมาวิคเตอร์ก็ได้พบกับตำราและสิ่งประดิษฐ์ลึกลับของแม่ เขาร้ำเรียนวิชาเวทย์มนต์ได้ด้วยตนเอง
จนเมื่อเขาได้มีโอกาสไปเรียนต่อในมหาวิยาลัย เขามีความเก่งกาจในด้านวิชาวิทยาศาสตร์ มีฝีมือและพรสวรรค์ในการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ และที่มหาลัยนี่เอง ทำให้เขาได้พบกับ ริ้ด ริชาร์ด ที่จะกลายเป็นศัตรูกันในเวลาต่อมา


ทั้งวิคเตอร์และริ๊ด ต่างถูกวางเป็นเหมือนคู่แข่งกัน แล้วจุดเปลี่ยนของชีวิตวิคเตอร์ก็มาถึง เมื่อเขาพยายามสร้างเครื่องมือที่สามารถติดต่อกับคนตายได้แม้ว่า ริ้ด จะตักเตือนเขาในเรื่องความไม่สมบูรณ์ของเครื่องและมันอาจจะส่งผลลัพธ์ที่ร้ายแรง
Doctor Doom
ทำให้วิคเตอร์ไม่เชื่อฟัง ริ้ด จนกระทั่งเกิดความผิดพลาด เครื่องมือได้ระเบิดใส่เข้าที่ใบหน้าของ วิคเตอร์ จนเกิดเป็นแผลบนใบหน้าและถูกขับไล่ออกจากมหาลัย
Doctor Doom

ต่อมาวิคเตอร์ได้เดินทางไปทั่วโลก จนมาหยุดที่ทิเบต โดยที่นี่เค้าได้รับการช่วยเหลือจากนักบวชอีกทั้งเขายังได้ทำการสร้างชุดเกราะและหน้ากากเหล็ก และได้เปลี่ยนชื่อเป็น Doctor Doom ก่อนที่จะกลับไปยึดอำนาจและปกครองใน Latveria ได้สำเร็จ

Doctor Doom
ยกค้อนธอร์ได้ซะงั้น
ส่วนในเรื่องความสามารถของ DoctorDoom นั้น นอกจากเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวทย์มนต์แล้ว รวมไปถึงได้ถูกยกย่องว่าเป็นมนุษย์ที่มีความรอบรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์ และฉลาดที่สุดในจักรวาลมาเวล

Doctor Doomได้สร้างอุปกรณ์ ไว้เยอะมาก อาทิ เครื่องไทม์แมชชีน,ชุดเกราะอันแสนแข็งแกร่งและสารพัดประโยชน์,และที่โดดเด่นมากคือ Doombots หุ่นยนต์ที่ดูมสร้างขึ้นเพื่อจำลองลักษณะของตัวเองเอาไว้มาใช้งานโน่นนี่นั้น

 
ซึ่งDoombots ได้พัฒนาการตัวเองจนถึงขั้นที่คิดว่าตัวเองนั้นเป็นดูมจริงๆ
Doombots
 
นอกจากนี้ Doctor Doom  ยังใช้ความสามารถในการช่วงชิงพลังอำนาจจากผู้อื่นอีกด้วย เช่น ขโมยพลังจากมนุษย์ต่างดาวที่ชื่อว่า Silver Surfer
 
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=NoRDGI02brY
 
ที่มาhttp://cartoon.mthai.com/character/27074.html


 
ประวัติ Galactus จอมเขมือบดาว
 
 
 
 
เเถม
 
 
 
ในห้วงจักรวาลก่อนเกิดปรากฎการณ์บิ๊กแบง “Galan” นักวิทยาศาสตร์เเละนักสำรวจอวกาศผู้อาศัยอยู่บนดาว “Taa” ดาวที่มีเทคโนโลยีเเละความเจริญรุ่งเรืองสูงที่สุดในจักรวาลขณะนั้นได้ค้นพบว่าอนุภาคเเละพลังงานต่างๆในจักรวาลกำลังเกิดการเปลี่ยนเเปลงเเละจะนำมาซึ่งจุดจบของจักรวาลในไม่ช้า
การเปลี่ยนเเปลงนั้นก่อให้เกิดเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งจักรวาล รวมทั้งดาว Taa ประชากรต่างพากันล้มตาย เเม้เเต่วิทยาการขั้นสูงของดาวดวงนี้ก็ไม่อาจเอาชนะได้ กาแลนจึงพาผู้ที่ยังมีชีวิตขึ้นยานบินพุ่งตรงไปยังศูนย์กลางรังสีคอสมิคเพื่อฆ่าตัวตายดีกว่าต้องมาตายเพราะเชื้อไวรัส
 

 แต่ทว่ากาแลนกลับรอดชีวิต เขาได้หลอมรวมเข้ากับจิตแห่งจักรวาล จนกำเนิดขึ้นใหม่อีกครั้งในนาม “Galactus” สิ่งมีชีวิตผู้คอยกลืนกินดวงดาวเพื่อความอยู่รอดของตน
กาแลคตัสใช้ความสามารถของตนสร้างชุดเกราะกับหมวกเพื่อทำการควบคุมพลังของตนเอง รวมทั้งสร้างสร้างยานอวกาศขนาดใหญ่ในชื่อ “Taa II”
 
 
ด้วยการที่เค้าต้องคอยกลืนกินดวงดาวทำให้เค้าเกิดความรู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เพราะมันทำให้เค้าได้เห็นถึงความสูญเสียของดวงดาวต่างๆเหมือนที่เขาเคยเจอมาก่อน เเต่เมื่อเค้าตระหนักได้ถึงเหตุผลในการมีชีวิตว่ามันเป็นชะตากรรม เขาตึงต้อวทำหน้าที่ผู้ทำลายล้างต่อไป จนกว่าจะถึงเวลาที่พลังของเค้าจะถูกส่งคืนสู่จักรวาลอีกครั้ง
กาเเล็คตัสมีร่างกายที่เเข็งเเกร่ง, ทรงพลัง, ความเร็ว, มีร่างกายที่ต่อต้านเชื้อโรคเเละอาการเจ็บป่วย, สามารถควบคุมขนาดร่างกายตนเอง, ควบคุมโมเลกุล, พลังงาน, สสาร รวมทั้งคืนชีพจากความตายได้
 

Galactus_by_espaidercito
 
 
ที่มาhttps://marvelthailandfan.wordpress.com/2013/03/19/galactus-%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%94/
 
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=Wh-mlLtLPpE
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=bZFJJ-DrMfo

Star-lord ผู้นำทีม Guardians of the galaxy

 
Starlord
 
 
Peter Quill หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “Star-lord
เขาเป็นเด็กกำพร้าพ่อ และมีอยู่วันหนึ่ง ในขณะที่เขาทำความสะอาดเพื่อที่จะทานมื้อค่ำแม่ของเขาได้เห็นแสงไฟสว่างมากเกิดขึ้น และทันใดนั้น ก็มี มนุษย์ต่างดาว 2 ตัวโผล่มาและมนุษย์ต่างดาวพูดว่า “เราจะฆ่าสายเลือดของ Spartoi” และหลังจากนั้น มันก็ฆ่าแม่ของเขา ในขณะนั้น เขาก็กำลังดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาตกใจมากและวิ่งหนีไปเขาได้คว้าปืนลูกซองที่อยู่ในบ้านเพื่อที่จะสู้กับมนุษย์ต่างดาว แต่ระหว่างนั้นเขาก็พบกับอุปกรณ์บางอย่างในตู้เสื้อผ้า และอยู่ดีๆ ก็เกิดแสงสว่างจ้า ลอยเข้ามาในบ้าน ก่อนที่ยานของมนุษย์ต่างดาวจะทำลายมัน
หลังจากนั้นเขาก็ได้ไปอาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่เขาก็หนีออกมา ต่อมาเขาได้ไปเป็นนักบินอวกาศฝึกหัดของ NASA หลังจากนั้น Master of the Sun ได้ยื่นข้อเสนอในการที่จะให้เขาได้เป็น ตำรวจอวกาศ (ให้ชุด Starlord) เขานั้นรับข้อเสนอด้วยความสมัครใจ แต่เขาถูกไล่ออกเพราะว่า เขานั้นมี พฤติกรรมที่ไม่ดี
และนั้นทำให้เขาโกรธมาก NASA ส่งเขากลับมายังโลก เพื่อให้เขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแต่เขากลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม เขาได้ขโมย Scoutship และกลับไปยังสถานีอวกาศและ Master of the sun ได้เลือกเขาเพื่อให้เขาได้รับตำแหน่ง Starlordและด้วยพลังของ Master of the sun ทำให้เขาได้มีโอกาศที่จะตามหาและฆ่าพวกมนุษย์ต่างดาวที่ฆ่าแม่ของเขา และนั่นก็ทำให้ Peter Quill กลายเป็น “Star-lord”
ภายหลังเขาได้เป็นผู้นำทีม Guardians of the Galaxy โดยหาสมาชิกต่างๆ มาทำงานร่วมกัน
 
พลัง
เนื่องจากว่าเขาเป็น สายเลือดผสมระหว่างมนุษย์และ Spartoi ทำให้เขามีความสามารถเหนือมนุษย์ เช่น
– ความแข็งแรงเกินมนุษย์ ตามที่บอกไปข้างต้น เขาสายเลือดผสม ทำให้เขาแข็งแรงมากกว่าคนทั่วไป
– ความอึด !!! (ขอใช้อย่างนี้แล้วกันน่ะครับ เข้าใจง่ายดี) ไม่ว่าเขาจะโดนยิงหรือชกต่อยเตะสักเท่าไหร่เขาก็จะยังยืนอยู่ได้เสมอ !!!
– ความไวและคล่องตัว เกิดจากพลังของ Spartoi อีกเช่นกัน ทำให้เขาไวกว่าคนธรรมดา และกล่าวได้ว่าไวกว่านักกีฬาที่เก่งที่สุดก็ว่าได้
– การทำงานของสมองเกินมนุษย์ สมองของเขาสามารถจะประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถเรียนรู้ภาษาต่างๆ ใน กาแลคซี่ได้อย่างง่ายดาย
– อายุเยอะกว่าคนปกติ โดย Spartoi นั้นจะมีอายุมากกว่ามนุษย์ทั่วไปถึง 3 เท่า ของมนุษย์ทั่วไป ทำให้เขานั้นยังดูหนุ่มอยู่ตลอดเวลา > <”
 
 
ความสามารถ
-ผู้เชี่ยวชาญในการใช้ปืน: Star-lord มีประสบการณ์มากมายในการใช้ปืนจากทั่วทุกมุมของกาแลคซี่ ไม่มีปืนกระบอกไหนที่เขาไม่รู้จักและใช้ไม่เป็น
-ศิลปะการต่อสู้: Star-lord มีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ในรูปแบบกระบวนท่าต่างๆ
-วางแผนการรบ: Star-lord นั้นมีความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหา วางแผนรบ ยุทธวิธีต่างๆ
-เป็นนักบินที่ประสบความสำเร็จ
-ฉลาด: Starlord มีความรู้กว้างขวาง รู้จักสิ่งต่างๆ ในกาแลคซี่อย่างดี
 
 
ที่มาhttps://comicsguide.wordpress.com/2014/01/16/starlord-%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1-guardians-of-the-galaxy/
 
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=1Yvc0CpbX2Q
 
 ประวัติ Spider-Man
 
 
 
 

Spider-Man: สไปเดอร์แมน

 
สำนักพิมพ์ (Publisher): Marvel Comics
ปรากฎตัวครั้งแรก (First appearance): Amazing Fantasy #15 (Aug. 1962)
ผู้ให้กำเนิด (Created by): สแตน ลี (Stan Lee) และ สตีฟ ดิทโก้ (Steve Ditko)
ชื่อยามเป็นมนุษย์ (Alter ego): ปีเตอร์ เบนจามิน ปาร์กเกอร์ (Peter Benjamin Parker)

Character biography: ประวัติของฮีโร่

สไปเดอร์แมน หรือ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ในยามปกติเป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการเลี้ยงดูจากลุงเบนและป้าเมย์ เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขาดันถูกพิษของแมงมุมอาบกัมมันตภาพรังสี ส่งผลให้มีความสามารถเหนือมนุษย์เขาจึงได้ประดิษฐ์เครื่องยิงใยเพื่อใช้ในการโหนและยึดเกาะรวมถึงใช้จัดการกับเหล่าร้ายด้วย นอกเหนือจากการเป็นซูเปอร์ฮีโ ร่ในชุดคอสตูมแล้ว เขาก็เหมือนกับวัยรุ่นทั่วไปที่ต้องผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเพื่อก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ให้ได้

Character ability : ความสามารถของฮีโร่

       สารพิษในตัวแมงมุมเมื่อเจอกับกัมมันตภาพรังสี ทำให้พิษเพิ่มขึ้นอีกมากและทำให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายของปีเตอร์เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ส่งผลให้สไปเดอร์แมนสามารถฟื้นฟูจากการบาดเจ็บได้รวดเร็ วกว่ามนุษย์ปกติแม้จะยังสู้ของวูล์ฟเวอรีนและเดอะฮัลค์ไม่ได้ก็ตามที
       ระบบการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นยังทำให้เขาทนต่อฤทธิ์ของยาหรือสารใดๆที่เข้าสู่ร่างกาย ในขณะเดียวกันก็สามารถถอนตัวจากฤทธิ์ยาได้อย่างรวดเร็วแม้แต่สารพิษที่ทำให้กลายเป็นแวมไพร์เขาก็ถอนตัวจากมันมาได้
Spider-Man: สไปเดอร์แมน
       แต่สิ่งหนึ่งที่สไปเดอร์แมนไม่อาจต้านทานได้ คือเครื่องดื่มประเภทแอลกฮอล์ ซึ่งเขาจะมีความทนทานในระดับเดียวกับมนุษย์เท่านั้น อีกทั้งสไปเดอร์แมนยังไม่อาจต้านทานความเจ็บป่วยจากเชื้อโรค เขามักเป็นไข้หวัดใหญ่บ่อยๆ นอกจากนี้เขายังไวต่อเอธิลคลอไรด์ที่เป็นส่วนผสมของยาฆ่าแมลงด้วยเขาสามารถไต่กำแพงได้อย่างสบายๆ ด้วยมือ เท้า หรือจะเป็นแผ่นหลัง เพราะตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้าและลำตัวจะมีเส้นขนเล็กๆ ที่เหนียวพอไว้ยึดเกาะ เขายังสามารถไต่พื้นผิวได้ขณะใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนาเกินไป
 
       นอกจากนี้เขายังแข็งแรงในระดับเหนือมนุษย์ โดยมาจากความสามารถของแมงมุมทั่วไปที่แบกของหนักกว่าตัวได้ถึง 150 เท่า สไปเดอร์แมนสามารถยกของที่มีน้ำหนักถึง 20-25 ตันได้เลยทีเดียว เขายังวิ่งได้ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์มากๆ เพียงแต่เขาชอบที่ห้อยโหนด้วยใยแมงมุมมากกว่า
 
       ร่างกายเขามีความคล่องตัวและการตอบสนองสูงมาก และเมื่อความไวนี้รวมเข้ากับเซนส์แบบแมงมุมที่หยั่งรู้ภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้เขาหลบหลีกการต่อสู้ได้ทุกรูปแบบ ไม่เว้นแม้แต่การถูกปืนจ่อหัว เขายังทรงตัวได้ดีไม่ว่าจะอยู่บนพื้นผิวใด เดินบนเส้นลวดด้วยนิ้วเดียว หรือยืนบนกำแพงในท่าขนานกับพื้นดิน เนื้อเยื่อและเส้นเอ็นของเขานั้นมีความยืดหยุ่นเป็นสองเท่าของมนุษย์ ส่งผลให้เขาบิดพลิ้วร่างกายได้ทุกท่า
 
       และความสามารถพิเศษที่ไม่มีซูเปอร์ฮีโร่คนไหน ก็คือเซนส์แบบแมงมุม ที่แม้จะดูเหมือนการหยั่งรู้อนาคต แต่ที่จริงแล้วมันเป็นการตื่นตัวและวิเคราะห์ถึงภัยที่จะเกิดขึ้นด้วยความเร็วสูง ซึ่งทำหน้าที่คล้ายดับเรดาร์ของแดร์เดวิล ที่ช่วยให้ตาบอดอย่างเขาไปถึงจุดหมายได้โดยไม่ปะทะสิ่งกีดขวางและอันตรายต่างๆ และเซนส์แบบแมงมุมอีกอย่างคือความสามารถในการดักจับคลื่นความถี่วิทยุ ด้วยเหตุนี้เขาจึงสร้างเครื่องมือที่เรียกว่า Spider-Tracers เพื่อถ่ายทอดสัญญาณที่ดักจับได้

Spider-Man Movies:

Spider-Man (2002)

Spider-Man (2002)

Spider-Man 2 (2004)

Spider-Man 2 (2004)

Spider-Man 3 (2007)

Spider-Man 3 (2007)

The Amazing Spider-Man (2012)

The Amazing Spider-Man (2012)

The Amazing Spider-Man 2 (2014)

 
ที่มาhttp://www.thaimovieclub.com/movie-characters/marvel-studios/133-spider-man.html
 
ที่มาhttps://www.youtube.com/watch?v=VINP2DnE4lw